Big Data กับ วงการยา ตอนที่1

วันนี้มาพูดเรื่อง Big Data กันสักหน่อย
ชั่วโมงนี้ผมว่าคำว่า Big Data สำคัญยังไง
คงไม่เกร่นกันให้มากความ เราอยู่ในยุคที่ข้อมูลท่วมหัว
แต่เอามาใช้ไม่ได้ หรือ วิเคราะห์ไม่เป็นนั่นเอง
แต่ก่อนที่จะมาแนะนำเครื่องมือ(Tools)ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล(Big Data)นะครับ


วันนี้มาอธิบายความแตกต่างของ 2 คำที่เรามักจะพบในการทำ Big Data Analytic คือคำว่า
- Business Intelligence (BI) (Dashbroad)
- Data Mining
ตามกราฟที่เห็นนะครับ





เราจะสรุปแบบง่ายๆคือ
- Business Intelligence (BI) จะเป็นการมองข้อมูลในอดีตและแสดงค่าสรุปต่างๆ ออกมาให้เป็นรายงาน (report) หรือdashboard ต่างๆ ดังนั้น BI จึงอยู่ในส่วนของเส้นสีแดง เพื่อตอบคำถามต่างๆ เช่น ยอดขายในเดือนที่ผ่านมา
มีคนเข้าชมเว็บไซต์เป็นจำนวนเท่าไรในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นต้น
ตัวอย่าง Tool ที่ใช้จะเป็น Power BI , Excel ,Olik Sense เป็นต้น
-Data Mining จะเป็นการคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ดังนั้น การวิเคราะห์ข้อมูลจะต้องมีความซับซ้อนมากขึ้น
เช่นมีการสร้างโมเดลคาดการณ์ต่างๆ ดังนั้นในแนวตั้งจึงอยู่ด้านบนภายใต้เส้นสีเขียว
และสามารถตอบคำถามต่างๆ ได้เช่น
ยอดขายในไตรมาสถัดไปจะเป็นเท่าไร
ลูกค้าคนไหนจะยกเลิกการใช้บริการ (churn) บ้าง เป็นต้น
ตัวอย่าง Tool ที่ในการทำ Data Mining เช่น R programing,Python,Rapid miner,Azure เป็นต้น

ซึ่ง Big Data Analytic กับวงการยาเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เดี๋ยวมาแนะนำกันต่อครับ

ภก.ภูริทัต ว่องพุฒิพงศ์
PharmConnection

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทฤษฎีโครงสร้างการเล่าเรื่อง (Storytelling)

ตัวอย่าง Cover Letter ที่ถูกต้อง

น้องตูน MSL