บทความ

Communication Skill 7 Tips

รูปภาพ
การจะฝึกทักษะการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพนั้น มี 7 องค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นต้องมี ดังนี้ครับ 1.ทักษะการฟัง(Listening) : ทักษะการฟังและสังเกตุเพื่อให้เข้าใจคู่สนทนาของเรา 2.การสื่อสารอวัจนภาษา (Non-verbal Communication) : ภาษากาย เช่น ท่าทาง และ การเคลื่อนไหวของดวงตา 3.ชัดเจน (Being Clear) : การเลือกคำที่เหมาะสมในการส่ง ข้อความที่เข้าใจง่าย 4.กระชับ (Being Concise) : ใช้คำที่เลือกสรรมาอย่างดี เพื่อการใช้คำให้น้อยลงในการถ่ายทอด ข้อความของคุณ 5.มั่นใจ (Being Confident) : ใช้ข้อความที่มีความเหมาะสม ในการสื่อสาร รวมถึงท่าทางที่เหมาะสมกับการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด 6.เป็นตัวของตัวเอง (Being Personable) : น้ำเสียงที่เป็นมิตรและรอยยิ้มที่เรียบง่าย จะทำให้การสื่อสารดีขึ้น 7.อดทน (Being Patient) : สงบนิ่งไม่รีบร้อนในการถ่ายทอดคำพูดของคุณ เป็นอย่างไรบ้างครับ กับสิ่งที่ต้องมีเพื่อให้การสื่อสารของพวกเรา มีประสิทธิภาพที่สุด อ่านแล้วดูไม่ยากนะครับ แต่ในทางปฏิบัติเป็นอีกเรื่องนึง ยังไงลองไปปรับใช้กันดูนะครับ ไม่ว่าจะสื่อสารกับหัวหน้า เพื่อนร่วมทีม ลูกน้อง หรือแม้แต่คนในครอบครัวครับ ขอบคุณครับ ภก.ภูริทัต ว

เขียน Business Plan ทำไม และ เขียนอย่างไร Pharmconnection มาแนะนำให้ครับ

รูปภาพ
ช่วงนี้หลายบริษัทเริ่มจะมีการขยับขยายในเรื่องตำแหน่งกันบ้างแล้ว ซึ่งในวงการยาเองซึ่งถือเป็นวงการที่มีความDynamicสูงมาก ด้วยความที่มีDynamicสูงมาก โอกาสก็เลยมีมากตามไปด้วย โอกาสที่ว่าคือโอกาสในการPromoteเป็น Manager ในหลายระดับ ตั้งแต่ Junior จนถึง Senior Management ในหลายบริษัทตอนช่วงสัมภาษณ์ก็จะมีการให้ทำ Business Plan ไม่ว่าคุณจะเป็นคนในบริษัทที่สัมภาษณ์เพื่อเติบโตในบริษัทตัวเอง หรือ คนที่มองหาโอกาสในการPromoteข้ามบริษัท การทำBusiness Plan เป็นสิ่งที่จำเป็นทั้งกับสายงาน Sale และ Marketing วันนี้เลยมานำเสนอ Template การทำเขียน Business Plan แบบคร่าวๆนะครับ เอาไว้ลองฝึกเขียนดู แนะนำในขั้นต้นคือเขียนBusinessของProductที่เราดูแลก่อน เขียนแบบScaleเล็กแล้วค่อยScaleใหญ่ขึ้นไปเป็นถ้าคุณเป็นManagerทีมตัวเองคุณจะเขียนBusiness Plan ของคุณอย่างไร เมื่อเขียนเสร็จแล้ว แนะนำว่าลองไปให้หัวหน้าลองอ่านแล้วให้Feed Back ดูครับ จะได้เห็นว่ามีตรงไหนต้องเพิ่มเติมบ้างครับ ขอบคุณครับ ภก.ภูริทัต ว่องพุฒิพงศ์

สัมภาษณ์งานให้ได้คนที่ดีเทคนิค S.T.A.R เป็นอีกทางเลือกครับ

สัมภาษณ์งานให้ได้คนที่ดีเทคนิค S.T.A.R เป็นอีกทางเลือกครับ S = situation คือบอกว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร T = task คือเล่าว่ามันมีอะไรที่ต้องจัดการ A = action คือสิ่งที่เราจัดการไป R = result คือผลที่เกิดขึ้น คำถามที่เหมาะกับการตอบด้วยเทคนิคนี้คือคำถามแบบ  Behavioral Interview คือการสัมภาษณ์เชิงพฤติกรรม  โดยการถามถึงเหตุการณ์ในอดีตเพื่อดูว่าคนนี้จะทำงานเป็นยังไงในอนาคต เช่น -ไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิว่าคุณทำงานได้มีประสิทธิภาพแค่ไหนภายใต้ความกดดัน ซึ่งการจะใช้ STAR นี้เราทำได้โดยการเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน S = ตอนนั้นผมทำงานได้รับTarget มา Q นั้น 10 ล้านบาท ปัญหาคือ  ทำไปได้ 2 อาทิตย์เกิดปัญหายาขาดซึ่งโรงพยาบาลบอกว่า ถ้าไม่มียาส่ง จะเอายาออกจากโรงพยาบาล T = สิ่งที่ผมต้องทำให้ได้คือต้องหาทางให้โรงพยาบาล  มียาพอใช้ได้จนกว่าบริษัทจะจัดการเรื่องยาขาดได้ A = สิ่งแรกที่ผมทำไป คือผมได้ลองหายืมยาในเขตก่อนว่ามีที่ไหนพอจะมีเหลือบ้าง  ซึ่งที่พอยืมได้ก็พอปะทังไปไม่กี่วันเพราะโรงพยาบาลที่ขาดมียอดใช้เยอะมาก  ต่อมาผมได้พูดคุยกับคนในทีมทั้งประเทศว่าเรามาแชร์ข้อมูลกันว่า  ที่ไหนยังมีเหลือเท่าไรและที่ไหน

แนะนำตัวตอนสัมภาษณ์งานอย่างไร ให้น่าประทับใจและเป็นธรรมชาติ

แนะนำตัวตอนสัมภาษณ์งานอย่างไร  ให้น่าประทับใจและเป็นธรรมชาติ ในการสัมภาษณ์งาน หลายครั้งที่Managerจะให้เราแนะนำตัว  คร่าวๆก่อน วันนี้เรามารู้กันครับว่า  การแนะนำตัวแบบคร่าวๆควรประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆดังนี้ 1.ประวัติการทำงานแบบย่อ ความจริงที่เราเจอคือ HR ใช้เวลาในการอ่าน Resumeเรา แค่ประมาณ  10-15 วินาที ซึ่งResumeของพวกเรา มักจะใส่ข้อมูลประวัติแน่นมากกก  และเรามักจะคิดไปเองว่า HR หรือ SM จะอ่านและจดจำได้หมด แต่ความจริงช่างโหดร้ายนัก วิธีการคือ ลองนั่งไล่ประวัติของคุณดู แล้วรวบเอาจุดเด่นในแต่ละตำแหน่งที่เคยทำมา  นำมาปรับให้เป็นประโยคสั้นๆ ที่ได้ใจความครบถ้วน ข้อควรระวังคือ คัดเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สัมภาษณ์เท่านั้น  เรื่องอะไรที่ไม่มีผลกับการสัมภาษณ์ ตัดทิ้ง เพื่อให้อัดแน่นแบบมีคุณภาพ 2. ผลงานที่ผ่านมา หรือ สิ่งที่เคยทำมาเช่น ตอนเรียนทำกิจกรรมอะไร หรือ ฝึกงานที่ไหน เป็นต้น หลักการเดียวกันกับข้อแรก สรุปให้ HR, Manager  ได้ทราบถึงความเก่งกาจของเราผ่านผลงาน  แต่หัวใจคือ ทำให้เห็นภาพได้ง่ายและทราบผล สามารถจับต้องได้ เช่น ตัวเลข เปอร์เซ็นต์ต่างๆ  หรือชื่อ Project ที่ผ่านมา โดย

ข้อคิดดีๆจาก Team Avenger วงการยา

รูปภาพ
ข้อคิดดีๆจาก Team Avenger วงการยา

ทฤษฎีโครงสร้างการเล่าเรื่อง (Storytelling)

รูปภาพ
ทฤษฎีโครงสร้างการเล่าเรื่อง (Storytelling) การเล่าเรื่องถือกำเนิดมาพร้อมกับสังคม และความเป็นมนุษย์ กล่าวคือ เรื่องเล่าเป็นเสมือนกับต้นแบบหรือสิ่งที่มนุษย์ถือกำเนิดมาด้วย สังเกตได้จากการที่มนุษย์ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนต่างก็บริโภคเรื่องเล่ากันมาแล้วทั้งนั้น เรื่องเล่าปรากฏออกมาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของภาพเขียนบนผนัง งานศิลปะประเภทต่างๆ มุขปาฐะและนิทานปรัมปรา เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ภาพยนตร์ และไม่เว้นแม้แต่กระทั่งในความฝัน ซึ่งสิ่งที่ปรากฏในฝันนั้นก็มีลักษณะของเรื่องราวที่สามารถนำมาเล่าเป็นเรื่องได้เช่นเดียวกัน

เตรียมตัวสัมภาษณ์งานให้พร้อม ต้องไม่ลืม

เตรียมตัวสัมภาษณ์งานให้พร้อม ต้องไม่ลืม 1.รู้จักข้อดี-ข้อเสียของตัวเองให้มากที่สุด คำถามส่วนใหญ่ก็จะวนอยู่ตรงนี้เป็นหลัก สิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างคือ ฝึกเล่าเรื่องตัวเองให้น่าสนใจ โดยที่เรื่องที่เล่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อดีของตัวเองเป็นหลัก 2.ทำความรู้จักกับบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์ หาข้อมูลเยอะๆก่อน และสำคัญกว่าคือ ก่อนจะส่งResumeไปหาข้อมูลดีๆก่อนส่งResumeด้วยนะครับ 3.ฝึกซ้อมหน้ากระจก ฝึกบ่อยๆโดยเฉพาะช่วงการเล่าเรื่อง ถ้าเราทำสีหน้าไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ สีหน้าจะแสดงออกมาโดยเราไม่รู้ตัว 4.ตอบให้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษจำเป็นมากในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม หรือ แม้แต่Resumeก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะครับ 5.แต่งหน้า แต่งตัวให้เป๊ะ สร้างความมั่นใจ แต่งหน้า แต่งตัวให้มั่นใจ แต่อย่ามากไปเกินพอดีนะครับ 6.เวลาตอบคำถามควรสบตากับผู้สัมภาษณ์ ความจริงใจ มุ่งมั่น แสดงออกได้ตามสีหน้าและสายตาครับ 7.ตอบคำถามอย่างมั่นใจ ตอบให้ได้ว่า “ทำไมคุณต้องได้งานนี้” ข้อนี้ควรจะเริ่มฝึกก่อนจะไปสัมภาษณ์อย่างน้อย 1-2 วัน ตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ทำไมงานนี้ต้องเป็นของเรา ตอบตัวเองเรียบร้อย ลองพูดให้คนใกล