เภสัชกร กับ การลงทุน โดย เพจ ลงทุนศาสตร์


สวัสดีพี่ๆน้องๆทุกท่านนะครับ หลังจากหายหน้าหายตาไปสักระยะ ขึ้นปีใหม่ปีนี้ฤกษ์งามยามดี
มาแนะนำ รุ่นน้องผมท่านนึงครับ จริงๆแล้วติดตามผลงานของเพจน้องเค้ามาประมาณ 1 ปี
ก็มีแชร์มาให้สมาชิกได้อ่านกันด้วยกับบทความเกี่ยวกับการลงทุนที่เข้าใจง่าย
และส่วนตัวผมเองก็หมกหมุ่นอยู่ในตลาดหุ้นมาประมาณ 15 ปี คิดว่าตัวเราเองก็น่าจะรู้ในระดับนึง
แต่พอมาอ่านก็ได้รู้ว่า การเล่นหุ้นมันมีอะไรมากกว่าที่เรารู้จริงๆครับ
และยิ่งได้รู้ว่าเจ้าของเพจเป็นเภสัชกร และ เจ้าของบริษัทสมุนไพรคงคา ซึ่งที่ร้านยาของผมก็รับมาขายด้วยแล้วนั้น ผมจึงไม่รอช้าที่จะติดต่อให้น้อง เบส ภก.กิตติศักดิ์ โภคา มาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเค้าให้พวกเราอ่านกันครับ



PC : อยากให้แนะนำตัว การศึกษา ประวัติการทำงาน สักหน่อยครับ
เบส : ผมชื่อภก.กิตติศักดิ์ โภคา จบการศึกษามาจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (เหรียญทอง) ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
ที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ด้านวิชาชีพ นอกจากใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ผมเองมีใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนไทย สาขาเภสัชกรรมไทย ใบประกอบวิชาชีพผู้แนะนำการลงทุนในตลาดทุน ใบประกอบวิชาชีพผู้แนะนำการลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และประกาศนียบัตรหลักสูตรผู้แนะนำการออกกำลังกายส่วนบุคคล
ปัจจุบัน ผมเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ที่บริษัท สมุนไพรคงคา จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายยาสมุนไพรของครอบครัว นอกจากนี้ผมยังเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
และมีอาชีพเสริมเป็นนักเขียนตามสื่อออนไลน์ วิทยากรรับเชิญเกี่ยวกับการลงทุน
และผู้ก่อตั้งเพจ ลงทุนศาสตร์ และเว็บไซต์ www.fiftytwohurtz.com


PC : ทำหลายอย่างจริงๆครับ รบกวนเล่าประสบการณ์ว่ามาเล่นหุ้นได้อย่างไร อะไรเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่ตลาดทุนครับ
เบส :สมัยผมเรียนจบ พ่อแม่อยากให้ของขวัญเรียนจบเป็นรถคันหนึ่ง แต่ผมปฏิเสธเพราะตอนนั้นใช้รถของครอบครัวอยู่แล้ว และรู้สึกเสียดายเงินที่จะต้องมีรถอีกคัน พ่อแม่เลยให้เงินขวัญถุงตอนเรียนจบไว้เท่ากับราคารถที่ตั้งใจจะซื้อให้ ตัวผมในเวลานั้นจึงพยายามสร้างผลตอบแทนสูงสุดจากเงินที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กก้อนนั้น เริ่มตั้งแต่ฝากธนาคาร ซื้อสลากออมสิน ซื้อกองทุนรวม เก็งกำไรทองคำ เก็งกำไรค่าเงิน
จนสุดท้ายมาสิ้นสุดที่ตลาดหุ้น

PC :เปิดเพจ ลงทุนศาสตร์มากี่ปีแล้วครับ ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
เบส : ลงทุนศาสตร์เปิดมาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถ้านับรวมตัวเลขกลมๆ ก็คงจะประมาณ
1 ปีกับ 3 เดือนได้ โดยส่วนตัวมองว่าผลตอบรับของเพจนั้นสูงกว่าที่คาดหมายมากที่เดียว
ยิ่งผมเรียนและศึกษาด้านการตลาดออนไลน์มาด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเพจลงทุนศาสตร์โตเร็วและมีส่วนร่วมกับเพื่อนในเพจมาก ลงทุนศาสตร์เปลี่ยนชีวิตผมไปหลายอย่าง การทำเพจสอนให้เราต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้นยังสร้างโอกาสมากมายมหาศาลในชีวิตให้กับผม สิ่งสำคัญที่สุดคือผมได้อาชีพเป็นนักเขียน ซึ่งเป็นความฝันตั้งแต่สมัยเด็กทีเดียว

PC : คิดอย่างไรกับคำว่า เล่นหุ้นต้องนั่งเฝ้ากระดานทั้งวันครับ
เบส : การลงทุนเหมือนการพยายามจะพิชิตยอดเขาสักลูกหนึ่ง ดังนั้นในชีวิตจริง
การลงทุนไม่เคยมีสูตรสำเร็จเลยว่าจะต้องทำแบบไหน เริ่มต้นเดินจากทางไหนถึงจะถูกต้อง
ซึ่งนั่นทำให้ผมไม่มีความคิดเห็นกับการนั่งเล่นหุ้นแบบเฝ้ากระดานทั้งวัน
ตัวผมเองมองว่าการลงทุนคือการมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของธุรกิจชั้นเยี่ยม
ผมเองจึงให้ความสำคัญกับการเฝ้ากระดานน้อย แต่แน่นอนว่าผมก็ไม่ได้ตีความว่าการจะเฝ้ากระดานนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด

PC : ถ้ามีคนถามว่าคุณเรียนเภสัชมา แต่กลับมาต่อยอดตัวเองกับการเล่นหุ้น สร้างความเสี่ยงในชีวิต แทนที่จะทำงานวิชาชีพเภสัชกร คุณจะตอบเขาว่าอย่างไร
เบส : ผมไม่เคยที่ตีความหรือแปะป้ายว่าตัวเองเป็นเภสัชกร ผมรู้ว่าผมเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดมาจนกระทั่งจะหมดลมหายใจเท่านั้น ผมมองว่าการซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ
ผมมองหาความสุขและผมลงทุนทำความสุขนั้นเท่าที่ผมค้นพบ วันนี้ผมค้นพบว่าการลงทุนคือความสุข ผมจึงตัดสินใจลงมือทำมัน แน่นอนว่าการลงทุนคือความเสี่ยง แต่ทุกอย่างบนโลกต่างก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น ตราบใดที่การตัดสินใจของผมไม่ได้เบียดเบียนใคร ผมมองว่าผมยังมีอิสรภาพอย่างเต็มที่ในการเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง

PC : ผ่านอะไรมาค่อนข้างเยอะ ได้ใช้วิชาความรู้ประสบการณ์ในอดีตมาปรับใช้กับสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันนี้อย่างไร
เบส :หากจะให้บอกว่าในอดีตผมเคยผิดพลาดอะไรในการลงทุนมาบ้าง ผมคิดว่าหน้ากระดาษเอสี่สักสามแผ่นก็คงไม่พอให้ผมเขียนบรรยาย ผมเป็นนักลงทุนคนหนึ่งที่มีบาดแผลมาก แต่สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือผมต้องให้อภัยตัวเองและก้าวผ่านมันไป สิ่งสำคัญคือเราต้องยอมรับกับตัวเองอย่างตรงไปตรงมาก่อนว่าเราพลาดตรงไหน เราจะแก้ไขได้อย่างไร เมื่อเราไตร่ตรองทั้งหมดที่ได้ เราจะได้คำตอบเองว่าสิ่งไหนควรปรับปรุง นักลงทุนหลายคนบอกว่าเราควรจะจดความผิดพลาดไว้เพื่อเตือนใจตนเองไม่ให้ผิดซ้ำอีก
แต่เชื่อไหม ผมไม่เคยจดความผิดพลาดในอดีตของตัวเองสักครั้ง แต่ผมเองแทบไม่เคยผิดอะไรซ้ำสองเลย มันเหมือนเราเคยปั่นจักรยานแล้วหกล้มนั่นแหละ มันไม่ต้องจดหรอกว่าเราเคยจักรยานล้ม
แค่เห็นจักรยาน เห็นสถานการณ์ เห็นถนนที่กำลังมุ่งไป มันก็รู้แล้วว่านี่ต้องระวัง
สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นสัญชาตญาณไปโดยอัตโนมัติ

PC : ช่วงนี้เห็นกระแสกำลังมา(จริงๆมีมานานละ)เรื่องที่ทำงานประจำไม่รวยหรอก มาเล่นหุ้นดีกว่ารวยกว่าเยอะ ถ้ามีคนอยากออกจากงานประจำแล้วมาเล่นหุ้น น้องเบสจะแนะนำอย่างไร ต้องมีเงินเก็บเท่าไรในการลงทุน
เบส :ผมแนะนำว่าไม่ต้องรีบ ลองเอาตัวรอดอยู่ในตลาดสัก 5 ปีได้อย่างปลอดภัยเสียก่อน ถ้า 5 ปีผ่านไปแล้วผลตอบแทนพอร์ตชนะตลาดทุกปี และพอร์ตมีกระแสเงินสดจากเงินปันผลออกมาให้พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่เดือดร้อน ถึงตอนนั้นค่อยออกมาเต็มตัวก็ยังไม่สาย อย่าลืมว่าวิกฤตเศรษฐกิจไม่ใช่ความเสี่ยง แต่มันคือความแน่นอน สักวันตลาดจะตกอย่างรุนแรงอย่างที่เคยเป็นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้ายังตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่าถ้าวันนั้นมาถึงแล้วจะรับมือกับมันอย่างไร ผมมองว่านั่นหมายความว่าเรายังไม่พร้อมจะออกมาลงทุนเต็มตัว

PC : ในฐานะกูรูคนหนึ่งของวงการการลงทุน คุณมองสถานการณ์ หุ้นปัจจุบันอย่างไรบ้างครับ
เบส : ผมมองว่าตลาดหุ้นเป็นเรื่องเรียบง่าย แต่คนส่วนใหญ่กลับพยายามทำให้มันยาก
เรื่องพื้นฐานคือหุ้นคือส่วนของความเป็นเจ้าของธุรกิจ ตราบใดที่ธุรกิจยังดีอยู่ หุ้นก็ยังคงดีอยู่
ในขณะที่ตลาดหุ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องคาดเดา เพราะมันคาดเดาไม่ได้ เมื่อหุ้นถูกก็ซื้อ
เมื่อหุ้นแพงก็ขาย กลยุทธ์การลงทุนที่สร้างความสำเร็จให้นักลงทุนระดับโลกมีเพียงเท่านี้จริงๆ เรื่องนอกเหนือจากนั้นอาจเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องราวที่ผมสนใจเท่าไหร่นัก

PC : ตอนนี้นอกจากเล่นหุ้น ทำอย่างอื่นด้วยไหม
เบส :สิ่งที่ผมรักเป็นพิเศษคืองานเขียนและงานพูด แต่ผมให้ความสำคัญกับงานเขียนมากเป็นพิเศษ
และไม่ได้ให้บทบาทตัวเองเรื่องงานพูดของตัวเองเท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งเพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบรับมือกับผู้คนเท่าไหร่ งานเขียนจึงเป็นอาชีพที่ผมรัก ปัจจุบันผมเขียนบทความลงเพจและเว็บไซต์ของตัวเอง เขียนบทความกับสื่อออนไลน์หลายสำนัก และส่วนหนึ่งก็กำลังมองหาเวลาว่างในการเขียนหนังสือของตัวเองหรือแปลหนังสือดีๆ สักเล่ม นักเขียนเป็นอาชีพในฝันของผมมาเสมอตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวันนี้ขณะนี้

PC : สุดท้ายอยากฝากอะไรกับคนในวงการยาเพื่อเป็นแนวทางในการคิดจะลงทุนเบื้องต้น
เบส : การลงทุนไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตแต่เป็นสิ่งที่น่าสนใจในชีวิต ผมพูดว่าการลงทุนไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เราไม่จำเป็นต้องลงทุนชีวิตเราก็ยังดำเนินต่อไปได้ เพียงแต่การลงทุนจะทำให้ชีวิตเราดำเนินไปอย่างมีตัวเร่งเท่านั้นเอง การลงทุนนั้นมีประโยชน์ทั้งทางตรงในแง่ของการสร้างผลตอบแทน วางแผนเกษียณ ประกันความเสี่ยง เอาชนะเงินเฟ้อ สร้างรายได้ส่วนต่อขยาย และประโยชน์ทางอ้อมในแง่ของการพัฒนาตัวเองด้านอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารธุรกิจ เพราะหุ้นก็คือธุรกิจ ยิ่งศึกษามาก มุมมองธุรกิจจะคมชัดมากขึ้น พัฒนาตัวเองมากขึ้นและธุรกิจตนเองมากขึ้น สุดท้ายแล้วการศึกษาการลงทุนนั้นอาจจะเหนื่อยในช่วงแรกแต่เมื่อทำได้แล้ว มันก็ทำได้ไปตลอดชีวิต ผมมองว่าวันหนึ่งเราทุกคนก็ต้องมาศึกษาด้านการลงทุนอยู่แล้ว อย่างเช่นช่วงการเกษียณ เราต่างต้องพยายามหาผลตอบแทนจากเงินต้นเท่าที่มีอยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมเราถึงไม่เริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้เลย เราจะปล่อยเวลาพอกพูนของการทบต้นให้หายไปเสียเฉยๆ ทำไมหลายสิบปี
การเคลื่อนไหวทุกสิ่งบนโลกนี้ประกอบด้วยแรงเสียดทาน 2 ประเภท ประเภทแรกคือแรงเสียดทานสถิตที่จะทำให้วัตถุเปลี่ยนจากอยู่นิ่งเป็นเคลื่อนที่ ส่วนอีกประเภทคือแรงเสียดทานจลน์ที่จะรักษาให้วัตถุรักษาการเคลื่อนที่ต่อไป ตำราฟิสิกส์บอกกับเราว่าแรงเสียดทานสถิตที่พบตอนเริ่มต้นนั้นมากกว่าแรงเสียดทานจลน์ที่จะรักษาการเคลื่อนที่ไว้เสมอ ดังนั้น เริ่มก้าวแรกให้ได้ก่อน เมื่อก้าวแรกได้เริ่มต้นแล้ว เรื่องราวหลังจากนั้นจะไม่ยากเลย ตอนที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสตัดสินใจล่องเรือออกไปหาโลกใหม่ เขาก็คงมีแรงเสียดทานสถิตที่มากมายไม่แพ้กัน ดังนั้น ถ้าอยากเริ่ม จงเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย

PC : เป็นไงกันบ้างครับกับ น้องเบส กูรูเรื่องการลงทุน จาก เพจ ลงทุนศาสตร์ ของเราครับ หวังว่าทุกท่านคงได้แนวคิดดีๆในการลงทุนนะครับ ซึ่งผมเชื่อว่าสมาชิกในวงการยาและเวชภัณฑ์หลายๆท่านน่าจะลงทุนในหุ้นอย่างแน่นอนครับ แต่อยากให้มองหุ้นเป็นการลงทุนไม่ใช่การพนัน เพราะหุ้นขึ้นหรือลง มีที่มาและที่ไป แต่การพนันไม่มีเหตุผลใดๆนอกจากดวงครับ และเร็วๆนี้เตรียมพบกับการพูดบนเวทีของน้องเบส ในมุมการลงทุน โดยเป็นการร่วมมือระหว่าง กลุ่มผู้แทนยาและเวชภัณฑ์,บ.Pharmconnection และ เพจ ลงทุนศาสตร์ เร็วๆนี้ครับ ขอบคุณทุกท่านครับ

ภก.ภูริทัต ว่องพุฒิพงศ์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทฤษฎีโครงสร้างการเล่าเรื่อง (Storytelling)

ตัวอย่าง Cover Letter ที่ถูกต้อง

น้องตูน MSL