หลักเกณท์อย่างไรในการเลือกคนเข้าทำงาน Sharing from พี่ไฮ้
หลักเกณท์อย่างไรในการเลือกคนเข้าทำงาน Sharing from พี่ไฮ้
สวัสดีครับผม วันนี้เราจะมาคุยกับ กูรูหนุ่มไฟแรงอีกคนในวงการยาของเรานะครับ กูรูคนนี้คือ พี่ ภก.วิรัตน์ โชติปฏิเวชกุล พี่ วิรัตน์ มีประสบการณ์การทำงานในวงการยา 15 ปีครับ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ปัจจุบัน พี่ วิรัตน์ ดูแลทีมขายยา Hormones ทั้งประเทศ มีประสบการณ์ทั้งทีมโรงพยาบาลและทีมร้านขายยา วันนี้พี่ วิรัตน์ให้เกียรติมาแนะนำน้องๆที่อยากเข้าวงการยาทุกท่านนะครับ วันนี้เราจะมาคุยในประเด็นที่ว่า
PC :พี่วิรัตน์ ใช้หลักเกณท์อย่างไรในการเลือกคนเข้าทำงานครับ
พี่ วิรัตน์ :เกณฑ์ในการเลือกคนนี่ปัจจุบัน มีช่องทางหลากหลายเลย ในที่นี่ขอพูดถึงคนมีประสบการณ์ก่อน ทั้ง ยา และเครื่องมือ
อันดับแรกก็ดูกันที่ cv ความใส่ใจ spelling รูปถ่ายที่แนบมา บางคนไม่แนบรูปถ่าย บางคนเอารูปตอนไปเที่ยว บางคน ไม่ update ตำแหน่ง บางคนใช้วิธี forward cv มาให้ ซึ่งเป็นเมลล์ที่ส่งไปบริษัทอื่นๆเต็มไปหมดนี่ก็กรองในเรื่องความละเอียด ใส่ใจไป หนึ่งละ ผ่านมารอบสัมภาษณ์เนี่ย มารยาทในการรับโทรศัพท์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของ first impression นะครับ อย่าลืมว่าอาชีพเราเนี่ย การพูดการจา สำคัญที่สุด มาถึงการสัมภาษณ์ เราข้ามเรื่องการกรอกใบสมัครไปเลยนะครับ manager มักจะมีภาพของผูุ้แทนในเขตนั้นๆในใจอยู่แล้ว การถามคำถามก็คงมุ่งตรงไปในตัวตนของ candidate ว่าตอบโจทย์ที่ตั้งไว้อย่างไร สำคัญที่ตรงนี้แหล่ะครับ manager ที่ผ่านงานมานาน เรารู้วิธีmanage คนครับ ช่วงนี้จะเป็นช่วงใส่ pressure เข้าไปที่ candidate เนื่องจากเราอยาก test ระดับความทน และวิธีการเผชิญแรงกดดัน ผมมักจะถามคำถาม(ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย จริง) เพื่อดูว่า candidate จะมีวิธีจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ต้องบอกว่า ที่จริงมันไม่มีถูก ผิด หรอกครับ แต่จุดประสงค์คืออยากรู้ว่า ปฏิภาณไหวพริบเป็นอย่างไร หลายครั้งได้คำตอบที่น่าตื่นเต้น หลายครั้งcandidate ก็ถูกซักอยู่นาน กว่าจะหลุด key words ที่เราต้องการออกมา คราวนี้ก็ขึ้นกับว่าทีมของเรามีความพร้อมแค่ไหน คนเก่ง ค่าตัวก็แพง คนที่พัฒนาได้ค่าตัวก็ย่อมเยาว์หน่อย แล้วแต่จะเลือก
ได้คนที่ถูกใจแล้วก็มาทดสอบกับ 3 คำถามสุดท้าย
1.น้องมองตัวเองใน 5ปี ข้างหน้าอย่างไร
2.มีคำถามจะถามอะไรเพิ่มเติมบ้าง ง่ายมากนะครับ แต่มันตอบยากมาก ถ้าน้องfake ไม่เนียนพอ เพราะ manager จะมีคำถามย้อนกลับในขั้นตอนนี้
3.ถ้าน้องผ่านรอบลึกๆ อาจมีคำถามโบราณๆ ในตำนาน เช่น ให้ขายปากกา ให้พี่ให้ได้ อันนี้ดูไหวพริบล้วนๆครับ นักขายที่ดี ต้องมีไหวพริบที่ดี และสอนกันไม่ได้
manager จะดู candidate เยอะครับ กว่าจะเลือกมาลงเขตได้ ส่วนคนที่ยังไม่มีประสบการณ์คงต้องบอกว่ายุคนี้ก็ยากหน่อย น้องต้องพร้อมจริงไรจริง จึงจะฝ่าเข้ามาในวงการช่วงนี้ได้
PC : ครับก็ขอขอบคุณพี่ วิรัตน์ มากนะครับ สำหรับคำแนะนำดีๆแก่น้องๆ ที่อยากเข้าวงการยาทุกท่านนะครับ สุดท้ายนี้ พี่วิรัตน์ อยากฝากอะไรถึงน้องๆทุกคนครับ
พี่ วิรัตน์ : ก่อนที่คุณจะเข้ามาสู่งานผู้แทนยา งานที่มหัศจรรย์มากที่สุดงานหนึ่ง ที่ผมเคยรู้จัก งานที่ ทำให้เราได้พบได้เจอกับบุคคลระดับครีมของวงการมากมาย ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆในการเข้าหาบุคคลเหล่านี้ ได้พบกับคนหลายๆรูปแบบ ทั้งในกลุ่มผู้แทน หรือ แพทย์ ซึ่งจะว่าไป มันก็คล้ายๆละครน้ำเน่าเรื่องหนึ่งทีเดียว ได้ค้นพบว่าวันๆนึง เรามีอะไรต้องทำอีกมาก เพื่อที่จะตามคนอื่นให้ทัน หรือ เพื่อหนีคนอื่นให้ได้ ได้เรียนรู้ว่า Paper หนึ่งๆ มันสามารถพลิกแพลงไปมา ได้อย่างไร ได้ค้นพบว่า อาชีพ ที่ใช้เพียง คำพูด และ การวางแผนการทำงานดีๆ มันเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างไร
น่าแปลกใจ ที่หลายๆคน เดินเข้ามา และก็จากไป โดย ไม่เคยมองเห็นความพิเศษเหล่านี้ และยิ่งน่าเสียดายที่คนที่ยังอยู่บนเส้นทางนี้ หลายคน ก็ยังมองไม่เห็นความมหัศจรรย์นี้ จนพลาดโอกาสดีๆ ที่จะส่งและผลักดันสิ่งดีๆให้เกิดแก่ตัวเอง
หากคุณกำลังเลือกว่าจะเดินต่อไปทางไหน ระหว่างทางคุณจะได้เจออะไรบ้าง คุ้มไหมที่คุณจะยอมเปลี่ยนตัวเอง
เดินตามผมมา ผมจะเล่าอะไรให้พวกคุณฟัง มีอะไรอีกมากที่ผมว่าพวกคุณอยากรู้ครับ
สวัสดีครับผม วันนี้เราจะมาคุยกับ กูรูหนุ่มไฟแรงอีกคนในวงการยาของเรานะครับ กูรูคนนี้คือ พี่ ภก.วิรัตน์ โชติปฏิเวชกุล พี่ วิรัตน์ มีประสบการณ์การทำงานในวงการยา 15 ปีครับ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ปัจจุบัน พี่ วิรัตน์ ดูแลทีมขายยา Hormones ทั้งประเทศ มีประสบการณ์ทั้งทีมโรงพยาบาลและทีมร้านขายยา วันนี้พี่ วิรัตน์ให้เกียรติมาแนะนำน้องๆที่อยากเข้าวงการยาทุกท่านนะครับ วันนี้เราจะมาคุยในประเด็นที่ว่า
PC :พี่วิรัตน์ ใช้หลักเกณท์อย่างไรในการเลือกคนเข้าทำงานครับ
พี่ วิรัตน์ :เกณฑ์ในการเลือกคนนี่ปัจจุบัน มีช่องทางหลากหลายเลย ในที่นี่ขอพูดถึงคนมีประสบการณ์ก่อน ทั้ง ยา และเครื่องมือ
อันดับแรกก็ดูกันที่ cv ความใส่ใจ spelling รูปถ่ายที่แนบมา บางคนไม่แนบรูปถ่าย บางคนเอารูปตอนไปเที่ยว บางคน ไม่ update ตำแหน่ง บางคนใช้วิธี forward cv มาให้ ซึ่งเป็นเมลล์ที่ส่งไปบริษัทอื่นๆเต็มไปหมดนี่ก็กรองในเรื่องความละเอียด ใส่ใจไป หนึ่งละ ผ่านมารอบสัมภาษณ์เนี่ย มารยาทในการรับโทรศัพท์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของ first impression นะครับ อย่าลืมว่าอาชีพเราเนี่ย การพูดการจา สำคัญที่สุด มาถึงการสัมภาษณ์ เราข้ามเรื่องการกรอกใบสมัครไปเลยนะครับ manager มักจะมีภาพของผูุ้แทนในเขตนั้นๆในใจอยู่แล้ว การถามคำถามก็คงมุ่งตรงไปในตัวตนของ candidate ว่าตอบโจทย์ที่ตั้งไว้อย่างไร สำคัญที่ตรงนี้แหล่ะครับ manager ที่ผ่านงานมานาน เรารู้วิธีmanage คนครับ ช่วงนี้จะเป็นช่วงใส่ pressure เข้าไปที่ candidate เนื่องจากเราอยาก test ระดับความทน และวิธีการเผชิญแรงกดดัน ผมมักจะถามคำถาม(ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย จริง) เพื่อดูว่า candidate จะมีวิธีจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ต้องบอกว่า ที่จริงมันไม่มีถูก ผิด หรอกครับ แต่จุดประสงค์คืออยากรู้ว่า ปฏิภาณไหวพริบเป็นอย่างไร หลายครั้งได้คำตอบที่น่าตื่นเต้น หลายครั้งcandidate ก็ถูกซักอยู่นาน กว่าจะหลุด key words ที่เราต้องการออกมา คราวนี้ก็ขึ้นกับว่าทีมของเรามีความพร้อมแค่ไหน คนเก่ง ค่าตัวก็แพง คนที่พัฒนาได้ค่าตัวก็ย่อมเยาว์หน่อย แล้วแต่จะเลือก
ได้คนที่ถูกใจแล้วก็มาทดสอบกับ 3 คำถามสุดท้าย
1.น้องมองตัวเองใน 5ปี ข้างหน้าอย่างไร
2.มีคำถามจะถามอะไรเพิ่มเติมบ้าง ง่ายมากนะครับ แต่มันตอบยากมาก ถ้าน้องfake ไม่เนียนพอ เพราะ manager จะมีคำถามย้อนกลับในขั้นตอนนี้
3.ถ้าน้องผ่านรอบลึกๆ อาจมีคำถามโบราณๆ ในตำนาน เช่น ให้ขายปากกา ให้พี่ให้ได้ อันนี้ดูไหวพริบล้วนๆครับ นักขายที่ดี ต้องมีไหวพริบที่ดี และสอนกันไม่ได้
manager จะดู candidate เยอะครับ กว่าจะเลือกมาลงเขตได้ ส่วนคนที่ยังไม่มีประสบการณ์คงต้องบอกว่ายุคนี้ก็ยากหน่อย น้องต้องพร้อมจริงไรจริง จึงจะฝ่าเข้ามาในวงการช่วงนี้ได้
PC : ครับก็ขอขอบคุณพี่ วิรัตน์ มากนะครับ สำหรับคำแนะนำดีๆแก่น้องๆ ที่อยากเข้าวงการยาทุกท่านนะครับ สุดท้ายนี้ พี่วิรัตน์ อยากฝากอะไรถึงน้องๆทุกคนครับ
พี่ วิรัตน์ : ก่อนที่คุณจะเข้ามาสู่งานผู้แทนยา งานที่มหัศจรรย์มากที่สุดงานหนึ่ง ที่ผมเคยรู้จัก งานที่ ทำให้เราได้พบได้เจอกับบุคคลระดับครีมของวงการมากมาย ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆในการเข้าหาบุคคลเหล่านี้ ได้พบกับคนหลายๆรูปแบบ ทั้งในกลุ่มผู้แทน หรือ แพทย์ ซึ่งจะว่าไป มันก็คล้ายๆละครน้ำเน่าเรื่องหนึ่งทีเดียว ได้ค้นพบว่าวันๆนึง เรามีอะไรต้องทำอีกมาก เพื่อที่จะตามคนอื่นให้ทัน หรือ เพื่อหนีคนอื่นให้ได้ ได้เรียนรู้ว่า Paper หนึ่งๆ มันสามารถพลิกแพลงไปมา ได้อย่างไร ได้ค้นพบว่า อาชีพ ที่ใช้เพียง คำพูด และ การวางแผนการทำงานดีๆ มันเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างไร
น่าแปลกใจ ที่หลายๆคน เดินเข้ามา และก็จากไป โดย ไม่เคยมองเห็นความพิเศษเหล่านี้ และยิ่งน่าเสียดายที่คนที่ยังอยู่บนเส้นทางนี้ หลายคน ก็ยังมองไม่เห็นความมหัศจรรย์นี้ จนพลาดโอกาสดีๆ ที่จะส่งและผลักดันสิ่งดีๆให้เกิดแก่ตัวเอง
หากคุณกำลังเลือกว่าจะเดินต่อไปทางไหน ระหว่างทางคุณจะได้เจออะไรบ้าง คุ้มไหมที่คุณจะยอมเปลี่ยนตัวเอง
เดินตามผมมา ผมจะเล่าอะไรให้พวกคุณฟัง มีอะไรอีกมากที่ผมว่าพวกคุณอยากรู้ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น