พฤติกรรมสำคัญที่ผู้บริหารต้องมีในภาวะวิกฤติCovid-19

ในช่วงนี้แม้จะเริ่มผ่อนคลายจากมาตราการณ์ต่างๆแล้ว แต่Covid-19น่าจะยังคงอยู่กับพวกเราไปอีกสักระยะ การทำงานของผู้แทนและผู้บริหารต้องเปลี่ยนไปตาม New Normal ไม่ว่าจะเป็น WFH, Training Online หรือแม้แต่การใช้Tool onlineเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
 
วันนี้เลยมาเขียนบทความให้ผู้บริหารได้อ่านกันครับกับเรื่อง

พฤติกรรมสำคัญที่ผู้บริหารต้องมีในภาวะวิกฤติCovid-19

1.ตัดสินใจเร็ว และ แม่นยำ 
ในภาวะวิกฤติ ผู้บริหารต้องตัดสินใจเร็ว โดยต้องจำกัดคนที่ตัดสินใจให้น้อยที่สุด 
โดยในภาวะวิกฤติ สิ่งที่ผู้บริหารควรต้องFocus เรียงลำดับดังต่อไปนี้
1.1 ความปลอดภัยของพนักงาน
1.2 สภาพคล่องของธุรกิจ
1.3 ความสัมพันธ์กับลูกค้า
1.4  สินค้าคงคลัง

2.ปรับตัวเร็ว และ ยอมรับฟัง
ในช่วงวิกฤติผู้บริหารมักจะเจอกับสถานการณ์บางอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน 
การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เร็วเป้นสิ่งที่จำเป็นมาก และ 
การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกเป็นสิ่งจำเป็นมาก
เพื่อให้องค์กรสามารถผ่านวิกฤตินั้นได้อย่างรวดเร็ว

3.ส่งมอบความเชื่อมั่นแก่พนักงาน
ช่วงวิกฤติมักมาพร้อมข่าวลือมากมาย ช่วงวิกฤติผู้บริหารต้องสื่อสารกับทีมงานบ่อยๆ Updateสถานการณ์ภายในบริษัทที่ถูกต้องให้แก่ทีมงานอย่างน้อยวันละครั้ง 
เพื่อไม่ให้เกิดข่าวลือทางลบและเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมงาน 
โดยสิ่งที่ผู้บริหารต้องใช้มากในช่วงวิกฤตินี้คือ ทักษะการสื่อสาร และ สิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างคือ ผู้บริหารต้องปรากฏตัวด้วยความสดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใส สุขภาพแข็งแรง 
ให้ทีมงานรู้สึกมั่นใจว่าผู้บริหารเราไม่เครียด ยังแข็งแรงพร้อมสู้ไปกับพวกเขา

4.ผู้บริหารต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับพนักงาน
ช่วงวิกฤติในองค์กรที่มีพนักงานเยอะๆหลายแผนก ผู้บริหารอาจจะจัดให้มีMeetingข้ามแผนก และ มอบหมายงานบางอย่างเพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมและได้เรียนรู้ข้ามแผนก 
และที่สำคัญมากคือในทุกMeetingต้องมีผู้นำองค์กรมาร่วมด้วย 
เพื่อให้พนักงานมีความรู้สึกว่าผู้บริหารให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนและ
พร้อมเข้ารับฟังปัญหาของทีมงาน

5.ไว้ใจ
ในช่วงเวลาที่พนักงานทำงานจากที่บ้าน สิ่งที่ผู้บริหารต้องแสดงออกมา
ให้ลูกทีมได้รับรู้ตลอดเวลาคือ ผู้บริหารไว้ใจทุกคนและเชื่อมั่นว่าทุกคนทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ ถ้าผู้บริหารยังมีความกังวลว่าพนักงานไม่ทำงาน อู้งาน 
ก็มาใช้การวัดผลจากงานที่ได้มอบหมาย แต่การวัดผลก็ต้องตั้งบนพื้นฐานความคิดที่ว่า พนักงานทุกคนทำงานเต็มที่ตามข้อจำกัดของแต่ละคนแล้ว

6.ชอบเรียนรู้
ช่วงนี้จะเห็นว่ามีCourse online ทั้งฟรีและไม่ฟรี มากันเต็มไปหมด 
ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ให้พนักงานหรือแม้แต่ผู้นำเองได้Take Courseเสริมความรู้ใหม่ๆ
ให้กับตัวเองได้ ซึ่งถ้าผู้บริหารมาร่วมแชร์ว่าได้ลงCourseนี้ไปแล้ว ดียังไง 
ได้ความรู้อะไรบ้าง น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้พนักงานได้ไปลงเรียนCourseเหล่านี้ 
เพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงานได้เป็นอย่างดีครับ

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้บริหารทุกท่านนะครับ

ภก.ภูริทัต ว่องพุฒิพงศ์



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทฤษฎีโครงสร้างการเล่าเรื่อง (Storytelling)

น้องตูน MSL

ตัวอย่าง Cover Letter ที่ถูกต้อง