Exclusive Talk with เภสัชกรสุทธิพงค์ หนูฤทธิ์
สวัสดีน้องๆเพื่อนๆพี่ ที่ติดตามPharmconnectionมาโดยตลอดครับ หลังจากห่างหายไปนานกับการ สัมภาษณ์บุคคลที่น่าสนใจ น่าติดตาม และ น่าชื่นชม ในวงการยาไปนาน วันนี้บ.Pharmconnectionได้มีโอกาสสัมภาษณ์แบบ Exclusive จาก เภสัชกรการตลาดที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงและมีรางวัลการันตีความสามารถมากมาย เช่น เภสัชกรดีเด่นภาคใต้ในสาขาเภสัชกรการตลาดและอุตสาหการ และ ศิษย์เก่าดีเด่นด้านการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม เป็นต้น หลายคนน่าจะเดาได้ว่าเป็นใคร
PC Q: ประวัติการศึกษา
Ble : สวัสดีครับ เบิ้ลครับ เภสัชกรสุทธิพงค์
หนูฤทธิ์ จบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ สาขาเภสัชศาสตรบัณฑิต ม.สงขลานครินทร์
( ม.อ. ) ปีทีสำเร็จการศึกษา พ.ศ...2548
ปัจจุบัน เป็นผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท ไฟเซอร์
(ประเทศไทย) จำกัด ดูแลเขตต่างจังหวัดครับ
PC Q: เส้นทางการเติบโตในวงการยา ทำไมเลือกทำผู้แทนยา
แทนที่จะเลือกทำงานสายอื่นๆของวิชาชีพเภสัช เช่น
โรงพยาบาล ร้านยา โรงงาน etc.
Ble : ตั้งแต่สมัยฯนศภ.ปี 5 ผมได้รับการคัดเลือกจากการสัมภาษณ์นักศึกษาให้มาฝึกงานที่บริษัทไฟเซอร์(ประเทศไทย)จำกัด
ทีม CV ก่อนเรียนจบจึงเป็นโอกาสได้สัมภาษณ์งาน และเริ่มงานทีมนี้เลยครับ
ถามว่าทำไมถึงเลือกผู้แทนยา ที่จริงแล้วเป้าหมายชัดเจนตั้งแต่
ตอนเลือกเอนทรานซ์ สอบตรงเข้า ม.อ. เลือกคณะเภสัชฯ
อันดับเดียว ตอนสอบสัมภาษณ์
ก็ยืนยันกับอาจารย์ไปว่า จบแล้วอยากเป็นดีเทล์ยาครับ จึงพยายามเรียนรู้
พัฒนาตัวเอง
เน้นการทำกิจกรรมส่วนรวมและหาข้อมูลเพื่อการเตรียมตัวเองจากรุ่นพี่ๆครับ
PC Q :ช่วยแชร์ประสบการณ์การสมัครงานผู้แทนยา
การสัมภาษณ์งาน จนได้ทำงาน บริษัท อันดับ 1
ในประเทศไทยและของโลก
Ble : ผมมีเป้าหมายชัดเจนตั้งแต่แรก จึงพัฒนาตัวเราเองอยู่เสมอครับ
พยายามวิ่งเข้าหาโอกาส ตั้งแต่การทำกิจกรรม เรียนรู้การทำงานกับคนอื่น
การทำงานเป็นทีม ทั้งกิจกรรมของคณะ มหาวิทยาลัย และ สนภท. รวมถึงการเตรียมตัวเลือกสาขาบริหารเภสัชกิจ
และสัมภาษณ์คัดเลือกนักศึกษาฝึกงานที่พี่ๆ ฝ่ายTraining บริษัทไฟเซอร์(ประเทศไทย)จำกัด
บินลงไปสัมภาษณ์เป็นที่แรก
ในปีนั้น โอกาสที่เข้ามา จึงตั้งใจและพยายามทำให้ดีที่สุด
จนได้สัมภาษณ์งานที่นี่ ที่แรก และมีโอกาสได้เริ่มงานที่อยากทำครับ
ต้องขอบคุณพี่ๆ
Training หัวหน้า คณาจารย์ และพี่ๆที่สอนงาน ที่ช่วยแนะนำและให้โอกาสครับ
PC Q : มองวงการยาในปัจจุบันเป็นอย่างไร
แตกต่างจากอดีตที่เคยเป็นนักศึกษา เมื่อเทียบกับเข้ามาทำงานเอง
Ble : ในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงในตลาดยาอย่างมากมาย
จนมาถึงตลาดยายุคแห่ง Cost Containment
จากการประกาศนโยบาย ที่เป็นข้อจำกัด
ทั้งจาก CGD , MoPH , GPO , Anti
Corruption Bareau & Internal
Trade Dept , Commerce Ministry ที่เข้มข้นกว่าในอดีต รวมถึง ราคากลาง
และล่าสุด ยานวัตกรรม ซึ่งท้าทายความสามารถ วัดแรงใจ ทุกๆคน ทุกๆฝ่าย ครับ
มองอีกมุม ถือเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้ ต่อความท้าทายอย่างต่อเนื่องครับ
ในตลาดยุคแห่งการแข่งขัน เราจำเป็นต้องขวนขวาย ติดตาม
รู้ให้ลึกในข้อมูล และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในแต่ละสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
Ble : เป็นผู้แทนยาได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด นอกจากหนี้สิน เอ้ย
ทรัพย์สินแล้ว ตลอดเส้นทางยังมีกำไรชีวิตเข้ามาตลอด
การได้เรียนรู้ระบบของบริษัท
เรียนรู้คน เรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน พยายามฝึกฝนทำทุกวันให้ดีที่สุด
ผลที่ตามมานอกจากผลสำเร็จในงาน+การทำงานอย่างมีความสุขแล้ว
เรายังได้สะสม asset นั่นคือ connection
และ
relationship ที่ดีมาก....บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ต่างๆ
เป็น ดุจเพื่อน เป็นเหมือนญาติ... หลายๆครั้ง
น้ำใจจากพวกเขา ที่ส่งมาเหมือนพี่เหมือนน้อง
มีค่าเกินกว่าคำว่า External
& Internal customers และมีคุณค่ากว่าทรัพย์สินนอกกายทุกสิ่งอย่างก็ว่าได้ครับ
PC Q : ทำไมถึงเลือกโตในสาย Sales
Ble : ความเห็นส่วนตัว การพัฒนาทีมงาน เริ่มต้นจากฝ่ายขาย ถือเป็นโอกาสได้เรียนรู้
ทั้งการบริหารจัดการ
และการทำงานร่วมกับคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ
ในขณะเดียวกันก็ควรเรียนรู้งานของแต่ละฝ่ายในบริษัท
หากเราเข้าใจการทำงานของแผนกสนับสนุน มองในมุมมองของเพื่อร่วมงาน
เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ความคาดหวังในอนาคตมีโอกาสควรไปฝึกงานในต่างแผนก
พัฒนาตัวเองและทีมงานต่อไปน่าจะดีครับ
PC Q : เคล็ดลับการ Promote มี Inspiration
หรือ Motivation อะไร
Ble : Inspiration ของผม คือ การได้ดูแลครอบครัวและคนที่เรารัก พร้อมกับสร้างคุณค่าในตัวเอง
ช่วยเหลือผู้อื่น
คืนคุณค่าสู่สังคม ช่วยเพื่อนรอบตัวเพื่อช่วยกันพัฒนาวิชาชีพและสังคมของเราให้ดีขึ้นครับ
ผมเชื่อว่าการจะก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
มาจากการให้ความสำคัญกับจรรยาบรรณวิชาชีพ ทัศนคติที่ดี ความรักความสุขในงาน
ความอยากทำงาน มีเป้าหมายชัดเจน
ผลักดันด้วยแรงบันดาลใจ
บวกกับความตั้งใจของเรา และทีมทุกคนที่มีต่องานที่ตนเองรับผิดชอบร่วมกันนั้น คนเราอาจจะมีความมุ่งหวัง
การสนองตอบต่อสิ่งที่ต้องการในชีวิตแตกต่างกัน
มีเคล็ดลับหรือคติประจำใจที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับผมนั้น
เคล็ดลับนอกจากยึดอิทธิบาท
4 ( ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ) ในการทำงาน
สิ่งที่มีค่ายิ่งคือการยึดคติพจน์จากพระบิดาฯ
(
พระราชดำรัสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ) :
"ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง...
ลาภ ทรัพย์
และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง
ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์"
PC Q : ในฐานะผู้บริหารฝ่ายขายรุ่นใหม่
มองตลาดยาปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง
Ble : ตลาดยาในปัจจุบันมี Dynamic เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
หลายอย่างเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้หรือค่อนข้างยาก
ที่ผ่านมาบ่อยครั้งที่เราเกือบเห็นแสงสว่าง
มักจะมีความท้าทายรอเราอยู่ที่ปลายโมงค์เสมอ มารไม่มี บารมีไม่เกิด
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
สำคัญอยู่ที่ทัศนคติของเรา ขวัญกำลังใจต้องพร้อม หากเราเตรียมพร้อม
มีสติอยู่กับปัจจุบันและอย่ากังวลอนาคต
ในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เตรียมพร้อมให้ดี มีสติ สติ และสติ อย่าคิดมาก
ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและอย่าประมาท อุปสรรคอะไรจะถาโถมเข้ามา Take It easy... ผมยังเชื่อมั่นว่าการได้ตื่นเช้าขึ้นมาทุกวัน
พบว่าเรายังหายใจดีอยู่ ก็นับเป็นรางวัลของชีวิตแล้ว...จง ^____^ ยิ้มรับกับเช้าวันใหม่
ด้วยความสุข สร้างและส่งกำลังใจ
พลังบวกให้กัน
หากมีกำลังใจจากทีมงานที่ดี...เชื่อมั่นว่า...วันนี้จะมีสิ่งที่ดีและมหัศจรรย์กว่าเมื่อวานเกิดขึ้นแน่นอนครับ
PC Q : ในฐานะที่คุณได้รับรางวัลเกียรติยศ “เภสัชกรดีเด่นภาคใต้ในสาขาเภสัชกรการตลาดและอุตสาหการ” และรางวัล “ศิษย์เก่าดีเด่นด้านการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม” เนื่องในโอกาสฉลองการก่อตั้งคณะเภสัชศาสตร์ครบ
40 ปีและครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อยากทราบว่า ในฐานะเภสัชกร
มีความสำคัญอย่างไรกับการตลาดยา และได้นำความรู้ ความสามารถเพื่อพัฒนาตลาดยาได้อย่างไร
Ble : ขอบคุณสำหรับคำถามครับ คำถามนี้
เหมือนขึ้นเวทีประกวดอะไรสักอย่างนะครับพี่เบนซ์ ^^
ผมภาคภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลทั้งสองนี้
ซึ่งผมเป็นแค่หนึ่งในตัวแทนของพี่น้องเภสัชกรที่มีโอกาสได้รับรางวัล
จึงอยากมอบเป็นรางวัลขอบคุณเพื่อนร่วมวิชาชีพเภสัชกรรมและบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เภสัชกรถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระ คอยช่วยตรวจสอบ
ประเมิน ติดตามและป้องกันปัญหาการใช้ยา ปัญหาแพ้ยารวมทั้งผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา
อีกทั้งยังร่วมกันดูแลการบริหารจัดการและพัฒนาระบบยาภาพรวมของประเทศ บทบาทหน้าที่ของเภสัชกรการตลาดเป็นเหมือนด่านแรกๆของระบบยา
ควรพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่อย่างมืออาชีพ
และร่วมกัน เป็น partnership
กับสหวิชาชีพ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ยาเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดครับ
PC Q : มีอะไรจะแนะนำน้องๆที่เรียนจบในปีนี้
และกำลังก้าวเข้ามาทำงานในวงการยาบ้าง ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง
จึงจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
Ble : ขอต้อนรับน้องใหม่ในวงการยา
และขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกๆคน ที่กำลังหางานอยู่ครับ ยุคนี้ตำแหน่งงานอาจมีจำกัด
และโอกาสไม่ได้มาบ่อยๆ ถามตัวเองอยู่เสมอ ว่าถ้ามีงานที่ดี ตำแหน่งที่เราอยากได้
เรียกเราสัมภาษณ์วันนี้ ตอนนี้
เราเตรียมพร้อม เต็ม 100 แล้วหรือยังครับ
? ถ้าเรามีเป้าหมายชัดเจน
และรักในงานสาขานี้ ลงมือทำเลยครับ
แล้วเราจะมีความสุข กับงานที่เราทำ
น้องที่สัมภาษณ์งานแล้วยังไม่ได้ อย่าเพิ่งท้อครับ พยายามฝึกฝนพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
หากวันนึงเมื่อเราได้รับโอกาสในการทำงาน หน้าที่ของเราในฐานะเภสัชกรการตลาด
นอกจากการนำเสนอข้อมูลยาอย่างมืออาชีพ เราควรสืบค้นและฝึกการนำเสนอข้อมูลด้วยหลักฐานทางวิชาการ
( Evidence Based ) ให้น่าเชื่อถือ โดยยึดจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นหลัก
ยาที่เราดูแลรับผิดชอบ ผู้ที่ทราบข้อมูลดีสุดคือ เภสัชกรเรา การที่เราสามารถให้ข้อมูล
และชี้แจงข้อสงสัยทุกๆประเด็น
เพื่อให้ได้มาซึ่งยาคุณภาพและมีความปลอดภัยโดยการยึดถือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
ถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
นอกจากนี้สิ่งสำคัญมากในการทำงานในวิชาชีพเภสัชกรการตลาดให้สำเร็จและมีความสุข
นอกจากการมีเพื่อนร่วมงานทีมงานที่ดี คือ ความจริงใจ ซื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียร
เสมอต้นเสมอปลาย ใฝ่เรียนรู้ และ
มี Positive Thinking ซึ่งคอยเป็นภูมิต้านทานให้สู้ต่อทุกความท้าทายที่เข้ามา
ความสำเร็จจะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีครูรอบกาย ให้เกียรติเขาแล้วเราจะได้รับความไว้วางใจ
เราสามารถเรียนรู้ได้จากทุกๆคน
เคล็ดลับความสำเร็จขอแค่ตั้งใจดี มีจิตสาธารณะ มีน้ำใจ
มีความซื่อสัตย์และใช้ความเป็นมืออาชีพ ( Professional )
พิสูจน์ตัวเอง
สร้างการยอมรับ และความเชื่อใจ ( Trust )แก่ทีมงาน และบุคลากรการแพทย์ในเขตที่เราดูแลให้จงได้ก่อน
ก่อนที่จะเริ่มนับหนึ่งที่การขายยาอย่างมืออาชีพครับ
ที่สำคัญมากๆคือ คิด วิเคราะห์ ตัดสินใจแล้ว
ลงมือทำทันทีครับ อย่าหยุดพัฒนา อย่ารอให้โอกาสวิ่งหนี หายไป
สุดท้ายนี้ โอกาสในการพัฒนาวิชาชีพเภสัชกรการตลาดในอนาคต
ให้พัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงต้องฝากความหวังไว้ที่น้องๆรุ่นใหม่ ช่วยกันคิด
ช่วยกันลงมือทำพัฒนาวิชาชีพและสังคมร่วมกันครับ ขอบคุณครับ
PC : ก็ขอขอบคุณย้องเบิ้ลมากนะครับที่มาแชร์ประสบการณ์และข้อคิดดีๆแก่น้องๆทั้งที่กำลังทำงานในวงการยา และ น้องๆที่สนใจเข้าสู่วงการยาทุกท่าน จริงๆผมรู้จักน้องเบิ้ลมาตั้งแต่น้องจบใหม่ๆมาเริ่มงานกับPfizerแม้จะคนละทีม(ตอนนั้นผมเป็น DSMของPfizer) ก็ได้เห็นพัฒนาการของน้องเบิ้ลมาแบบห่างๆมาตลอด น้องเบิ้ลมีพัฒนาการที่ดีเยี่ยมในหลายๆด้านครับ ก็หวังว่าน้องๆจะได้รับความรู้ดีจากพี่เบิ้ลนะครับ
ขอบคุณครับ
ภก.ภูริทัต ว่องพุฒิพงศ์
บ.PharmConnection
Admin กลุ่มผู้แทนยาและเวชภัณฑ์
เรียบเรียง
อยากเก่งเหมือนพี่ๆจังเลยค่ะ หนูจะพยายามทำให้เต็มที่ หนูจะทำให้ความฝันหนูในการได้ทำงานในวงการนี้เป็นจริงให้ได้
ตอบลบ